แม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดชายแดนจังหวัดหนึ่ง ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับสหภาพพม่า ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกสุดของภาคเหนือ โดยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 924 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 12,681.259 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันแบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ คือ อำเภอเมือง แม่สะเรียง ขุนยวม ปาย แม่ลาน้อย สบเมย และปางมะผ้า แม่ฮ่องสอนได้ชื่อว่า เมืองสามหมอก เนื่องจากเป็นเมืองในหุบเขา ล้อมรอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อนทอดขนานไปกับทิวเขาถนนธงชัย และทิวเขาแดนลาว ดังนั้น จึงถูกปกคลุมด้วยหมอกตลอดทั้งปี มีทิวทัศน์สวยงามตามธรรมชาติของเทือกเขาสลับซับซ้อนและป่าไม้นานาพันธุ์จน มีคำกล่าวว่าเปรียบเสมือนกับเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของเมืองไทย
ประวัติและความเป็นมาจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อ ปี พ.ศ. 2374 พระเจ้ามโหตรประเทศ ผู้ครองนครเชียงใหม่ ให้ เจ้าแก้วเมืองมา เป็นแม่กอง นำไพร่พลช้างต่อและหมอควาญ ออกไปจับช้างป่ามาใช้งาน เจ้าแก้วเมืองมา ยกไพร่พลช้างช้างป่ามาใช้งาน เจ้าแก้วเมืองมา ยกไพร่พลข้ามภูเขา มาทางตะวันตกของเชียงใหม่ ซึ่งมีช้างป่าชุกชุม โดยมอบหน้าที่ให้ พะกาหม่อง เป็นผู้ควบคุมดูแล เมื่อคล้องช้างได้เป็นจำนวนเพียงพอแล้ว จึงพากันเดินทางต่อไปถึงชุมชนบ้านป่าแห่งหนึ่ง มีทำเลดีมีร่องธารน้ำและที่ราบ เหมาะแก่การฝึกช้างป่า จึงหยุดไพร่พลตั้งบ้านเรือนขึ้นที่นี่ และตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “แม่ร่องสอน” หมายถึงที่มีร่องน้ำฝึกช้าง ต่อมา ได้เพี้ยนเป็น “แม่ฮ่องสอน” ครั้นถึงปี พ.ศ. 2399 มีชาวไทยใหญ่ อพยพมาหลบภัยสงครามอยู่ที่แม่ร่องสอนเป็นจำนนมาก โดยมี เจ้าฟ้าโกหล่าน และชานกะเล เป็นหัวหน้า เมื่อมาอยู่ที่นี่ ชานกำเล ได้ช่วยหน่วยงานต่างๆายแดนจังหวัดหนึ่ง ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับสหภาพพม่า ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกสุดของภาคเหนือ โดยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 924 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 12,681.259 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันแบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ คือ อำเภอเมือง แม่สะเรียง ขุนยวม ปาย แม่ลาน้อย สบเมย และปางมะผ้า แม่ฮ่องสอนได้ชื่อว่า เมืองสามหมอก เนื่องจากเป็นเมืองในหุบเขา ล้อมรอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อนทอดขนานไปกับทิวเขาถนนธงชัย และทิวเขาแดนลาว ดังนั้น จึงถูกปกคลุมด้วยหมอกตลอดทั้งปี มีทิวทัศน์สวยงามตามธรรมชาติของเทือกเขาสลับซับซ้อนและป่าไม้นานาพันธุ์จน มีคำกล่าวว่าเปรียบเสมือนกับเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของเมืองไทย
ประวัติและความเป็นมาจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อ ปี พ.ศ. 2374 พระเจ้ามโหตรประเทศ ผู้ครองนครเชียงใหม่ ให้ เจ้าแก้วเมืองมา เป็นแม่กอง นำไพร่พลช้างต่อและหมอควาญ ออกไปจับช้างป่ามาใช้งาน เจ้าแก้วเมืองมา ยกไพร่พลช้างช้างป่ามาใช้งาน เจ้าแก้วเมืองมา ยกไพร่พลข้ามภูเขา มาทางตะวันตกของเชียงใหม่ ซึ่งมีช้างป่าชุกชุม โดยมอบหน้าที่ให้ พะกาหม่อง เป็นผู้ควบคุมดูแล เมื่อคล้องช้างได้เป็นจำนวนเพียงพอแล้ว จึงพากันเดินทางต่อไปถึงชุมชนบ้านป่าแห่งหนึ่ง มีทำเลดีมีร่องธารน้ำและที่ราบ เหมาะแก่การฝึกช้างป่า จึงหยุดไพร่พลตั้งบ้านเรือน
เเหล่งข้องมูล http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=moonfleet&month=12-2009&date=30&group=113&gblog=134แนะนำ 10 แหล่งท่องเที่ยวโรแมนติกในจังหวัดแม่ฮ่องสอน
1 ชมสายหมอกที่ล่องลอยอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำและทัศนียภาพอันงดงามของป่าสนสองใบที่รายล้อม ปางอุ๋ง หรือ โครงการพระราชดำริปางตอง 2 เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและความสงบเงียบ นอกจากนั้น ยังสามารถเที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวเขาได้ด้วย
2 ตื่นตากับความแวววาวของผผลึกแก้วแคลไซต์ที่ วนอุทยานแก้วโกมล หรือ ถ้ำแก้วโกมล บริเวณเขาดอยถ้ำ โดยเฉพาะเวลาที่ผนังถ้ำต้องกับแสงไฟ ผลึกแร่จะดูคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง จะพบถ้ำประเภทนี้เพียง 3 แห่งในโลก คือ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศจีน และประเทศไทย
3 พอกโคลนจากน้ำพุร้อนบริสุทธิ์ อุดมด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนังและระบบไหลเวียนของโลหิตที่ ภูโคลน
4 ใช้ที่ชีวิตเรียบง่ายที่ “ปาย” เมืองเล็กเมืองนี้ติดอันดับต้นๆ ของสถานที่ที่โรแมนติกของประเทศไทย และยังถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์สวยๆ หลายเรื่อง
5 ชมวิวเมืองแม่ฮ่องสอนที่ วัดพระธาตุดอยกองมู ปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญ ประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2 องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดย จองต่องสู่ เมื่อ พ.ศ. 2403 เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ซึ่งนำมาจากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ. 2417 โดย พระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก
6 นั่งเรือหางยาวไปตามลำน้ำปายสู่ บ้านน้ำเพียงดิน นอกจากจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามระหว่างการเดินทางยังนับเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้วิถีชีวิตของ ชาวปาด่อง(กระเหรียงคอยาว) ด้วย
7 เที่ยวชมหินงอกหินย้อย ลำห้วยที่ลอดผ่านภูเขา และภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ภายใน “ถ้ำลอด” รวมทั้งเครื่องมือเครื่องใช้โบราณ กระดูกมนุษย์ ภายในบริเวณถ้ำผีแมน
8 ชมธรรมชาติ ชิมชา ดูการแสดงจากชาวจีนยูนาน และการละเล่นพื้นบ้านในงานเทศกาลชิมชาบ้านไท “หมู่บ้านรักไท”
9 สัมผัสความงดงามของ “อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์” ที่มีน้ำตกไหลลงจากหน้าผาสู่หุบเขาสูงชัน อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์นี้ตั้งอยู่ในหุบเขา จึงมีอากาศเย็นสบายและมีหมอกปกคลุมอยู่ตลอดปี รวมทั้งยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิด
10 เรียนรู้การพัฒนาในเรื่องความเป็นอยู่ของบ้านกะเหรี่ยงแม่ปิงและงานหัตถกรรมทอผ้าอันเป็นที่มาของโครงการศูนย์ศิลปาชีพในพระบรมราชินูปถัมภ์ที่ ศูนย์ศิลปาชีพบ้านกะเหรี่ยงแม่ปิง
ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เรายังไปไม่ครบ ทราเวลไทยซ่าส์จึงขอชวนเพื่อนๆไปท่องเที่ยวเมืองไทยแบบไทยเที่ยวไทยกันบ้างนะคะ
อ้างอิงจากหนังสือ SAWASDEE
ข้อมูล สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เเหล่งข้อมูล http://travel.thaiza.com


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น